แชร์

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน คืออะไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง มีกี่ประเภท?

อัพเดทล่าสุด: 23 พ.ค. 2025
1022 ผู้เข้าชม

ในแวดวงวิทยาศาสตร์ การศึกษา การวิจัยและพัฒนา สิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากที่จำเป็นที่สุดสำหรับการศึกษานั่นก็คือเครื่องมือ ซึ่งเครื่องมือที่ว่านี้ก็มีหลากหลายอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่กำลังศึกษา สำหรับการศึกษาโครงสร้างภายใน องค์ประกอบของเซลล์ต่าง ๆ เครื่องมือหนึ่งที่สำคัญอย่างมากนั่นก็คือ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน กล้องที่ว่านี้คืออะไร มีระบบการทำงานอย่างไรบ้าง มีจุดเด่นอะไร แล้วมีกี่ประเภท? เรา Hong Kong NTI ผู้ให้บริการเครื่องมือวัดระดับไมโคร-นาโนประสบการณ์ความชำนาญกว่า 15 ปี จะมาอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Electron Microscope) คืออะไร?

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน คือเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ลำแสงอิเล็กตรอนแทนลำแสงปกติในการสร้างภาพวัตถุที่มีขนาดเล็ก ซึ่งลำแสงอิเล็กตรอนจะมีกำลังขยายที่สูงกว่าหลายเท่า ขยายตัวภาพได้สูงกว่าการใช้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง ซึ่งกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนนี้จะนำมาใช้ศึกษาเกี่ยวกับชีววิทยา วัสดุศาสตร์ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ธรณีวิทยา วิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม และนาโนเทคโนโลยี

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน มีกี่ประเภท?

ประเภทของกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนจะมีด้วยกันหลัก ๆ อยู่ 3 ประเภท

1. กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission Electron Microscope: TEM)

เป็นกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้ลำแสงอิเล็กตรอนพลังงานสูงผ่านตัวอย่างที่บางมาก (ประมาณ 50-100 นาโนเมตร) และจะให้ภาพ 2 มิติที่ให้ความละเอียดสูงของโครงสร้างภายใน เพียงพอที่จะสามารถให้เห็นถึงระดับอะตอมได้ เป็นกล้องจุลทรรศน์ที่สามารถขยายโครงสร้างนาโนเมตรได้ถึง 50 ล้านเท่า โดยกล้องจุลทรรศน์ TEM จะเน้นการใช้งานด้านวัสดุศาสตร์ รวมถึงชีววิทยา เซลล์และไวรัสต่าง ๆ

2. กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (Scanning Electron Microscope: SEM)

เป็นกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้ลำแสงอิเล็กตรอนพลังงานสูงกวาดไปบนพื้นผิวของตัวอย่าง สร้างภาพเป็นแบบ 3 มิติที่มีความลึกและละเอียดสูง เพื่อตรวจวัดอิเล็กตรอนทุติยภูมิที่เกิดขึ้น มีกำลังขยายสูงสุดประมาณ 1-2 ล้านเท่า และความละเอียดประมาณ 1-20 นาโนเมตร กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน SEM นิยมใช้ในการศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของวัสดุและตัวอย่างทางชีวภาพ

3. กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดชนิดฟิล์อีมิสชั่น (Field Emission Scanning Electron Microscope: FESEM)

กล้องจุลทรรศร์อิเล็กตรอน FESEM เป็นกล้องจุลทรรศน์ที่การพัฒนาต่อยอดจาก SEM โดยใช้แหล่งกำเนิดอิเล็กตรอนแบบสนามไฟฟ้า (Field emission) ที่ให้ลำอิเล็กตรอนที่มีพลังงานคงที่และมีความสว่างที่สูงมากกว่า ทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 0.5-1 นาโนเมตร และสามารถทำงานที่แรงดันต่ำได้ ซึ่งเหมาะสำหรับตัวอย่างที่ไม่นำไฟฟ้าและตัวอย่างที่ไวต่อลำอิเล็กตรอน

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด ชนิดฟีล์อีมิชั่น - FESEM

จุดเด่นของกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ที่มากกว่ากล้องประเภทอื่น

การใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน จะเป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่มีจุดเด่นหรือคุณสมบัติเฉพาะที่มากกว่ากล้องจุลทรรศน์ทั่วไปในหลายด้าน ดังนี้
  • มีกำลังขยายและความละเอียดของภาพที่สูงกว่า เทียบกับกล้องจุลทรรศน์แบบแสงที่ขยายได้ 1,000-2,000 เท่า
  • สามารถมองโครงสร้างที่ละเอียดได้ถึงระดับอะตอม
  • สามารถให้ภาพได้หลากหลาย อย่างกล้อง TEM จะให้โครงสร้างของภาพแบบ 2 มิติ ส่วนกล้อง SEM จะให้โครงสร้างภาพแบบ 3 มิติ
  • กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนสมัยใหม่มักมีระบบวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีแบบ EDS (Energy Dispersive X-ray Spectroscopy) หรือ WDS (Wavelength Dispersive X-ray Spectroscopy)
  • ให้ความลึกของการโฟกัส (Depth of field) ที่สูงกว่ากล้องจุลทรรศน์แบบแสงทั่วไป
  • กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนสามารถให้ข้อมูลเชิงปริมาณได้หลากหลาย เช่น ความหนาของชั้นวัสดุ ขนาดของอนุภาค ความหนาแน่นของรูพรุน หรือทิศทางของโครงสร้างผลึก

การถ่ายภาพเซลล์มะเร็งด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนสามารถถ่ายภาพเซลล์มะเร็งได้ด้วยความละเอียดสูงมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัยและการวิจัยโรคมะเร็ง โดยมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้:

  1. สามารถแสดงรายละเอียดของโครงสร้างเซลล์มะเร็งในระดับที่กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงไม่สามารถแสดงได้
  2. ช่วยให้มองเห็นความแตกต่างระหว่างเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติ จากการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของออร์แกเนลล์ต่างๆ เช่น นิวเคลียส ไมโตคอนเดรีย และเยื่อหุ้มเซลล์
  3. สามารถตรวจวัดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในเนื้อเยื่อต่างๆ ได้อย่างละเอียด

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน หลักการทำงาน ทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน จะมีด้วยกันหลายขั้นตอน

  1. การผลิตลำแสงอิเล็กตรอน ผ่านฟิลาเมนท์ทังสเตน (Tungsten filament) เป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้การให้ความร้อนแก่ลวดทังสเตนจนเกิดการปล่อยอิเล็กตรอน หรือแหล่งกำเนิดสนามไฟฟ้า (Field emission) ใช้สนามไฟฟ้าแรงสูงสกัดอิเล็กตรอนออกจากปลายโลหะแหลมคม ทำให้ได้ลำอิเล็กตรอนที่มีความสว่างสูงและพลังงานสม่ำเสมอ
  2. การควบคุมและโฟกัสอิเล็กตรอน ผ่านเลนส์คอนเดนเซอร์ เลนส์วัตถุ และเลนส์ขยาย
  3. การกระทบระหว่างอิเล็กตรอนกับตัวอย่าง เช่น อิเล็กตรอนทะลุผ่านในกล้อง TEM และอิเล็กตรอนทุติยภูมิ ในกล้อง SEM
  4. การตรวจวัดและการสร้างภาพ ในกล้อง TEM จะเป็นแบบ 2 มิติ และกล้อง SEM จะเป็นแบบ 3 มิติ

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ใช้ศึกษาอะไร?

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน จะนำมาใช้ศึกษาในตัวอย่างที่มีความบางมาก ซึ่งสามารถใช้ศึกษาได้ในหลายงาน เช่น

  • การศึกษาด้านวัสดุศาสตร์
  • การวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยี
  • การศึกษาด้านชีววิทยา
  • การศึกษาด้านการแพทย์
  • การวิจัยด้านเภสัชศาสตร์
  • อุตสาหกรรมเซารามิค
  • อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
  • การศึกษาธรณีวิทยา
  • การวิจัยด้านอาหาร การเกษตร

Hong Kong NTI ผู้ให้บริการกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดชนิดฟิลด์อีมิสชั่น FESEM

กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่งที่สามารถศึกษาได้หลายแขนง ตามที่ได้อธิบายไปว่ากล้องที่ว่านี้มีหลายประเภท ซึ่งประเภทกล้องจุลทรรศน์ FESEM จะเป็นประเภทหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง เรา Hong Kong NTI มีบริการและจัดจำหน่ายกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด FESEM ที่มีประสิทธิภาพสูงแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรม ด้วยความเชี่ยวชาญระดับโลกกว่า 15 ปีที่เราส่งมอบเครื่องมือและบริการวัดขนาดเล็กระดับไมโครและนาโน เพื่อการวิจัยและการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจ สามารถติดต่อเราได้ที่ 725 อาคารเอส-เมโทร ชั้น 20, ถนนสุขุมวิท, คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ

โทร: 02-821-5278

อีเมล: info@hknti.com

Line: https://line.me/R/ti/p/@816txpya

บทความที่เกี่ยวข้อง
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy และ Cookies Policy
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy